วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การ ผสมพันธุ์ไก่

การ ผสมพันธุ์ไก่

การผสมพันธุ์ไก่ เพื่อผลิตลูก มี 2 วิธี คือ
วิธีธรรมชาติและวิธีผสมเทียม การผสมแบบธรรมชาติเป็นการผสมฝูง พ่อ 1 ตัว ผสมกับแม่ 10 - 11 ตัว การผสมฝูงเล็ก
ดีที่สุด คือ ฝูงละ 11 ตัว มีพ่อ 1 ตัว แม่ 10 ตัว แต่ไก่สามสายสามารถผสมฝูงใหญ่ได้ฝูงละ มากว่า 1,000 ตัว ไก่ 3 สาย
สามารถผสมกับพ่อพันธุ์พื้นเมืองทำเป็นลูกผสม 4 สายได้ หรือผสมกันเองได้ระหว่างพ่อแม่ 3 สายพันธุ์เดียวกัน เพื่อทดแทน
พันธุ์ในปีต่อไปก็ได้
การ ผสมเทียมใช้เฉพาะงานวิจัย เพื่อการปรับปรุงพันธุ์ คือ เราต้องการรู้พันธุ์ประวัติของไก่แต่ละตัวว่าไก่ตัวนั้น ๆ เกิดจาก
การผสมของพ่อตัวใด และแม่ตัวใหน ซึ่งการผสมเทียมสามารถให้คำตอบนี้ได้แต่แม่ไก่จะต้องเลี้ยงอยู่ในกรงตับขัง เดี่ยว เวลา
ไข่ออกมาก็ใช้ดินสอเขียนชื่อแม่และพ่อลงบนเปลือกไข่ การผสมเทียมพ่อ 1 ตัว สามารถผสมกับตัวเมียได้ 30-50 ตัว ผสม
สัปดาห์ละ 2 ครั้งก็พอ การผสมครั้งหนึ่ง ๆ น้ำเชื้อสามารถอยู่ในท่อนำไข่ของตัวเมีย 10-15 วัน วิธีผสมเทียมทางปฏิบัติมี 2
ขั้นตอนดังนี้
1. ขั้นตอนการรีดน้ำเชื้อตัวผู้ การรีดน้ำเชื้อจากไก่พ่อพันธุ์ต้องใช้คน 2 คน คือ คนอุ้มไก่ตัวผู้กระชับไว้ที่เอวยื่นห่างไก่ออก
ข้างหน้าหัวไก่อยู่ด้านหลังของคนอุ้ม การอุ้มไก่มีเทคนิก คือ จะต้องจับไก่กระชับไว้ที่เอวด้านขวามือ ให้ไก่อยู่ระหว่างเอวกับ
แขนขวา กดไก่ไว้ไม่ให้ไก่รู้สึกว่าโครงเครง หรือโยกไปโยกมา ขณะที่อีกคนหนึ่งทำการรีดน้ำเชื้อไก่ การอุ้มไก่ที่ถูกต้องนั้นมือ
ขวาจะจับขาไก่ทั้ง 2 ข้าง รวบเข้าหากัน โดยใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางอยู่ระหว่างขาทั้งสองป้องกันเวลารวบขาไก่เข้าหากัน ไก่จะเจ็บ
ขาจุดที่จับขาไก่อยู่ระหว่างหัวเข่าข้อต่อระหว่างแข้งกับโคนขาส่วน มือซ้ายของผู้อุ้มไก่จะจับอยู่ที่ใต้ท้องและปีกกระชับเข้าหากัน
ช่วยไม่ให้ไก่โยกโครงเครง
คนรีดน้ำเชื้อในมือขวาถือกรวยรองน้ำเชื้อ หรือไม่ก็เป็นแก้วน้ำขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 นิ้ว อาจจะเป็นพลาสติกแทนแก้วก็ได้ ข้อสำคัญ คือ ภาชนะต้องสะอาดล้างด้วยน้ำกลั่น หรือน้ำเกลือที่เตรียมไว้สำหรับเจือจางน้ำเชื้อไก่ถึงเวลารีดน้ำเชื้อ คนรีดใช้มือซ้ายลูบหลังพ่อไก่เบา ๆ จากโคนปีกผ่านมาที่หลังและโคนหางพอถึงโคนหางใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ กระตุ้นอย่างรวดเร็วที่โคนหาง ไก่จะมีความรู้สึกเสียวและแสดงปฏิกิริยากระดกหางขึ้นพร้อมๆ กับดันอวัยวะเพศรูปร่างเป็นลอนรูปปลายแหลมยื่อออกมาจากรูทวารให้เห็นอวัยวะ ดังกล่าว เป็นที่เก็บน้ำเชื้อและฉีดน้ำเชื้อในเวลาผสมพันธุ์ ซึ่งอยู่เหนือรูที่ไก่ใช้ถ่ายมูล อวัยวะเพศคู่นี้เวลาปกติจะหดตัวเก็บไว้ภายในมองไม่เห็น เวลารีดน้ำเชื้อมีเทคนิกสำคัญคือ ความเร็วระหว่างที่บีบกระตุ้นโคนหางให้หางไก่กระดกชี้ขึ้น กับการเปลี่ยนมือมาบีบโคนอวัยวะเพศที่กล่าวข้างบน ถ้าทำได้เร็วก็จะทำให้รีดน้ำเชื้อได้มาก ในด้านปฏิบัติจริงแล้วพอกระตุ้นโคนหางด้วยนิ้วมือซ้ายแล้วไก่จะกระดกหางขึ้น ผู้รีดต้องเอามือซ้ายมาเปิดก้นไก่โดยใช้ฝ่ามือซ้ายลูบจากบริเวณใต้ทวารดัน ปาดขึ้นด้านบน เพื่อเปิดให้เห็นอวัยวะเพศอีกครั้งหนึ่ง ช่วงที่เอามือลูบเปิดทวารนี้ไก่จะมีความรู้สึกทางเพศ และจะกดหางของมันดันสวนกับมือผู้รีดแล้วมันจะผ่อนคลายแรงกดลงขณะที่มือเรา ลูบผ่านทวารของมัน จังหวะนี้อวัยวะเพศจะโผล่ออกมามาก ปากทวารจะเปิดกว้างให้เห็นอวัยวะเพศคู่สีชมพูได้ชัดเจน ใช้หัวแม่มือและนิ้วชี้รีดน้ำเชื้อออกมาจากด้านโคนอวัยวะเพศออกมาทางด้านนอก จะเห็นมีน้ำเชื้อสดสีขุ่นขาวไหลออกมาจากนั้น ก็ใช้ภาชนะในมือขวาไปรองน้ำเชื้อเอาไว้ ก่อนที่จะรองน้ำเชื้อให้ดูดีๆ ว่าไม่มีขี้ไก่ไหลออกมาด้วย
2. เมื่อได้น้ำเชื้อมาแล้วให้ทำเจือจางโดยใช้น้ำกลั่นที่ละลายเกลือ แกงบริสุทธิ์ความเข้มข้นของเกลือเท่ากับ 0.75% จำนวน 2-3 เท่า ของน้ำเชื้อ ใช้ปลายไซริ้งที่ใช้ฉีดน้ำเชื้อคนเข้ากันให้ดี แล้วจึงนำไปฉีดเข้าที่ปากทางเข้าท่อนำไข่ของไก่ตัวเมีย ตัวละ 0.01-0.02 ซีซี. หรือว่า 1 ซีซี. ฉีดได้ 50-100 ตัว นั่นเอง สำหรับสารละลายเจือจางน้ำเชื้อ ถ้าไม่ผสมเองก็ซื้อน้ำเกลือที่ใช้ในโรงพยาบาลสำหรับคนป่วยที่มีความเข้มข้น ของเกลือ 0.9% แทนได้ และราคาไม่แพงหาซื้อได้ง่ายอีกด้วย การฉีดน้ำเชื้อเข้าตัวเมียจะต้องใช้คน 2 คน ขึ้นไปถ้าหากไก่มีมาก โดยคนที่ 1 เป็นคนฉีด ส่วนที่เหลือเป็นคนเปิดก้นไก่ตัวเมีย การเปิดก้นไก่ตัวเมียเพื่อให้เห็นปากทางเข้าท่อนำไข่ ให้ปฏิบัติได้โดยตรงภายในกรงไข่ ไม่จำเป็นต้องอุ้มแม่ไก่ออกมาข้างนอกกรง วิธีการก็โดยการเปิดกรงจับแม่ไก่หันก้นออกมาทางหน้าตรงตับ แล้วใช้มือซ้ายกดกลางหลังแม่ไก่ พร้อมใช้นิ้วมือกดกระตุ้นบริเวณหลังที่มือกดอยู่ แม่ไก่จะหมอบลงกางปีกออกและกระดกหางขึ้น พร้อมนี้ใช้มือขวาสอดเข้าไปในกรงด้านข้างจับที่ก้นไก่ใต้ทวารแล้วกดท้องดัน ไปข้างหน้าเลื่อนมือซ้ายมาช่วยมือขวา คือใช้มือซ้ายเปิดหางแม่ไก่ให้กระดกขึ้นพอมองเห็นทวาร และปากท่อนำไข่ที่แม่ไก่จะดันปากท่อนำไข่โผล่ออกมาให้เห็นอยู่ด้านซ้ายของ ทวารหนัก ที่ปากท่อนี้เป็นที่สอดไซริ้งเข้าไปประมาณ 1-2 นิ้ว ในแนวตรงขนาดกับลำตัง แล้วฉีดน้ำเชื้อเข้าไป

ไข่ซีลีเนียม

ไข่ซีลีเนียม คืออะไร?

ไข่ไก่ซีลีเนียมได้รับการเสริมแร่ธาตุซีลีเนียม ผ่านทางอาหารไข่ไก่ในรูปอินทรีย์ (Selenomethionine) ซึ่งมีความปลอดภัยและใช้ประโยชน์ได้สูง การบริโภคไข่ไก่เสริมซีลีเนียมนอกจากจะเป็นแหล่งโปรตีนที่มีราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบโปรตีน จากแหล่งอื่นๆแล้ว ไข่ไก่ที่ได้รับการเสริมแร่ธาตุซีลีเนียมยังจะช่วยให้ร่างกายได้รับ ซีลีเนียมในปริมาณที่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการอีกด้วย ดังนั้นไข่ไก่ที่ได้รับการเสริมซีลีเนียมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่รักสุขภาพ

ตารางแสดงปริมาณซีลีเนียมที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับในแต่ละวัน
ช่วงอายุ
(ปี) ชายและหญิง
(ไมโครกรัม/วัน) สตรีมีครรภ์
(ไมโครกรัม/วัน) สตรีให้นมบุตร
(ไมโครกรัม/วัน)
1-3 20 - -
4-8 30 - -
9-13 40 - -
14-18 55 60 70
19 ขึ้นไป 55 60 70

ตารางแสดงปริมาณซีลีเนียมในไข่ไก่ที่ได้รับการเสริมซีลีเนียม เทียบกับไข่ไก่ธรรมดา
ปริมาณซีลีเนียม ในไข่ขาว
(ไมโครกรัม/ฟอง) ในไข่ขาว
(ไมโครกรัม/ฟอง) รวมทั้งหมด
ไข่ไก่ธรรมดา 7.56 12.20 19.74
ไข่ไก่เสริมซีลีเนียม 10.31 17.44 27.95

โดยผลการตรวจสอบปริมาณซีลีเนียมในไข่ไก่ของ สงวนฟาร์ม โดยห้องปฏิบัติการกลางอาหารและเกษตรแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 26 มีนาคม 2552 พบปริมาณซีลีเนียมทั้งหมด 0.622 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (หรือ ประมาณ 40 ไมโครกรัม/ฟอง)

หน้าที่ของซีลีเนียมที่มีต่อร่างกาย
ช่วยปกป้องผิว ชะลอความแก่ชรา โดยทำงานร่วมกับวิตามินอี และเสริมฤทธิ์ในการทำงานของวิตามินอีในการรักษาเนื้อเยื่อต่างๆ และชะลอการแก่ตายของเซลล์ธรรมชาติ รักษาความยืดหยุ่นของผิวหนัง
ป้องกันโรคหัวใจ ช่วยให้หัวใจทำงานดีขึ้น โดยการช่วยนำออกซิเจนไปเลี้ยงให้เพียงพอ
ป้องกันโรคมะเร็ง โดยการรับประทานซีลีเนียมเป็นประจำจะช่วยต้านฤทธิ์มะเร็ง โดยเฉพาะชนิดผิวหนัที่เกิดจากสารเคมีและแสงแดด
ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยคุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระของซีลีเนียม จะช่วยซ่อมแซมเซลล์ภูมิคุ้มกัน
ช่วยต้านพิษในร่างกาย ซีลีเนียมป้องกันกัมมันตภาพรังสี รวมทั้งโลหะหนักที่เป็นพิษ เช่นปรอท เงิน แคดเมียม เทเลียม ไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และขับถ่ายออกได้เร็วขึ้น
ช่วยในการเจริญพันธุ์ ซีลีเนียมช่วยป้องกันผนังเซลล์ เพิ่มความแข็งแรงสมบูรณ์ของอสุจิ มีผลทำให้สามารถเข้าไปปฏิสนธิในไข่ของเพศหญิง
ส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย ให้เป็นไปตามปรกติ ควบคุมสุขภาพของสายตา ผิวหนังและเส้นผม

กินไข่

น้อยกว่า 3 ฟองต่อสัปดาห์.....ไม่เพียงพอ
การไม่ทานไข่ไก่อาจส่งผลเสียต่อเส้นประสาทสมองได้นะครับ ไข่ฟองเล็กๆฟองหนึ่งมีปริมาณ วิตามินบี 12 ซึ่งดีต่อร่างกายมากกว่าปริมาณมาตรฐานที่แนะนำในแต่ละวันเสียอีก "วิตามินบี 12 จำเป็นต่อการสร้างเยื่อหุ้มป้องกันเส้นใยประสาทค่ะ" อะเมนด้า เออร์เซลล์ นักโภชนาการและผู้เขียนหนังสือ Complete Guide to Healing Foods กล่าว "ถ้าขาดวิตามินบี เส้นใยประสาทอาจถูกทำลายจนฟื้นฟูกลับคืนมาไม่ได้"

นอกจากนี้ไข่ไก่ยังดีต่อสายตาคุณ โดยเมื่อไม่นานมานี้ผลการศึกษาจากอเมริกาที่ตีพิมพ์ในวรสาร Journal of Nutrition ได้ค้นพบว่า การทานไข่ไก่อย่างน้อย 3 ฟองต่อสัปดาห์จะช่วยป้องกันภาวะการสูญเสียสายตาที่มักเกิดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นได้ เพราะสาร ลูทีน และ ซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารรงควัตถุในตระกูลแคโรทีนอยด์ในไข่แดงจะช่วยบำรุงจอประสาทตานั่นเอง
6 ฟองต่อสัปดาห์.....ปริมาณที่พอดี

ไข่เจียวถือเป็นยาบำรุงร่างกายได้เลยนะครับ เพราะนอกจากไข่ไก่จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีแล้ว ยังช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน แถมปริมาณ ซีลีเนียม และ วิตามินอี ในไข่ไก่ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้คุณมีหุ่นกลมเป็นไข่อีกด้วย ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยหลุยส์เซียน่าสเตทพบว่า คนที่ทานมื้อเช้าโดยมีไข่เป็นส่วนประกอบ จะลดน้ำหนักได้มากกว่าคนที่ไม่ทานไข่ไก่ในมื้อเช้าได้ถึง 65 เปอร์เซ็นต์เมื่อบริโภคแคลอรี่ในบริมาณที่เท่ากัน

"โปรตีนในไข่ไก่จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มขึ้นอีกถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และยังทำให้คุณลดปริมาณมื้อเที่ยงที่ทานโดยเฉลี่ยได้อีก 164 แคลอรี่" นิคิล ดูแรนดาร์ ผู้เขียนงานวิจัยกล่าว แต่ถ้าคุณอยากสร้างกล้ามเนื้อก็ไม่ต้องกังวลนะครับ เพราะงานวิจัยจากเท็กซัสเอแอนด์เอ็มพบว่า การทานไข่ไก่วันละ 3 ฟองเป็นเวลา 2 วันต่อสัปดาห์จะช่วยให้หนุ่มนักเวตทั้งหลายสร้างกล้ามเนื้อที่ปราศจากไขมันได้เป็น 2 เท่าในช่วงเวลา 12 สัปดาห์
แล้วเรื่องคลอเลสเตอรอลที่เล่าลือกันล่ะ "จริงค่ะ ไข่มีคลอเลสเตอรอล" พาเมลา ไดสัน นักโภชนาการแห่งสมาคมโภชนาการประจำสหราชอาณาจักร กล่าว "แต่จัดว่ามีผลน้อยมากต่อการเพิ่มระดับคลอเลสเตอรอลในเลือด เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณไขมันอิ่มตัวที่คุณรับประทานอยุ่ทุกวัน" นอกจากนี้ผลการวิจัยเมื่อไม่นานนี้ของมหาวิทยาลัยคอนเนตทิคัตยังพบว่า การทานไข่ไก่ช่วยลดคลอเลสเตอรอล LDL (ไม่ดี) เพิ่มคลอเรสเตอรอล HDL (ดี) และลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองได้

ไข่ไก่ กับ คลอเลสเตอรอล


คลอเลสเตอรอล คือ อะไร?
คลอเลสเตอรอลเป็นไขมันประเภทหนึ่ง ซึ่งร่างกายนำไปใช้สำหรับสร้าง ผนังเซลล์, ฮอร์โมน, น้ำดี และ วิตามิน ดี โดยคลอเลสเตอรอล แบ่งเป็น 2 รูปแบบด้วยกันคือ
1. คลอเลสเตอรอลจากอาหาร (Dietary Cholesterol)
คลอเรสเตอรอลจากอาหาร พบได้ในอาหารที่มีแหล่งกำเนิดจากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์, นม, อาหารทะเล และ ไข่ เมื่อร่างกายได้รับคลอเลสเตอรอลจากอาหาร ร่างกายจะดูดซึมและส่งคลอเลสเตอรอลเข้าไปยังกระแสเลือด ซึ่งจะส่งผ่านไปยังส่วนต่างๆที่ร่างกายต้องการ
2. คลอเลสเตอรอลในเลือด (Blood Cholesterol)
คลอเลสเตอรอลที่พบในกระแสเลือด นั้นมาจากอาหารที่เรารับประทาน หรือเป็นคลอเลสเตอรอลที่ถูกสร้างโดยตับ ซึ่งถ้าเราได้รับคลอเลสเตอรอลจากอาหารร่างกายของเราก็จะสร้างรักษาสมดุลโดย การสั่งให้ตับสร้างคลอเลสเตอรอลในปริมาณที่น้อยลง
คลอเลสเตอรอลในเลือดสูง
ถ้าร่างกายไม่สามารถรักษาสมดุลของปริมาณคลอเลสเตอรอลในกระแสเลือด จะทำให้ระดับคลอเลสเตอรอลสูงเกินไป เมื่อในกระแสเลือดมีปริมาณคลอเลสเตอรอลที่สูง คลอเลสเตอรอลจะก่อตัวขึ้นบนผนังเส้นเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ยากลำบากขึ้น ซึ่งในท้ายที่สุดจะทำให้เส้นเลือดอุดตัน และนำไปสู่ปัญหาโรคหัวใจ
อะไรคือสาเหตุทำให้ระดับคลอเลสเตอรอลสูง?
ทั้งพันธุกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิต ทั้งคู่มีส่วนทำให้ระดับคลอเลสเตอรอลสูง สำหรับการใช้ชีวิตโดยปล่อยให้มีน้ำหนักมากเกินไป และการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวมากเกินไป ต่างก็เป็นสาตุทำให้ระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดสูงได้ ในขณะที่หลายคนอาจคิดว่าการได้รับคลอเลสเตอรอลจากอาหารที่มากเกินทำให้ระดับ คลอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มขึ้นนั้น จากการวิจัยล่าสุดพบว่า คลอเลสเตอรอลจากอาหารมีผลเพียงเล็กน้อยต่อระดับคลอเลสเตอรอลในเลือด
คุณจะจัดการกับคลอเลสเตอรอลอย่างไร?
การจัดการกับคลอเลสเตอรอลที่ดีที่สุด คือเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำ เสมอ สำหรับผู้ที่มีระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง อาจจะต้องรับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำ
การบริโภคไข่ไก่และคลอเลสเตอรอล
จากผลการวิจัยในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาพบว่า การบริโภคไข่ไก่ของบุคคลที่มีสุขภาพดี มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดเพียงเล็กน้อย โดยสำหรับคนส่วนใหญ่ คลอเลสเตอรอลปริมาณ 100 มิลลิกรัมต่อวัน ที่มาจากการบริโภคไข่ไก่ประมาณ 3-4 ฟองต่อสัปดาห์ จะส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของคลอเลสเตอรอลชนิดแอลดีแอล (ชนิดไม่ดี) เพียง 0.05 mmol/L และจะน้อยลงกว่านี้หากร่างกายได้รับไขมันอิ่มตัวน้อยลง
สำหรับบุคคลบางกลุ่มเช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน, ผู้ที่ตอบสนองรุนแรงต่อคลอเลสเตอรอลในอาหาร และ ผู้ป่วยไขมันในเลือดสูง ควรต้องศึกษาวิจัยเพิ่มเติม เพื่อที่จะแนะนำปริมาณไข่ไก่ที่ควรบริโภคสำหรับบุคคลกลุ่มดังกล่าวต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาที่ผ่านมาการบริโภคไข่ไก่ 3-4 ฟองต่อสัปดาห์ ร่วมกับการบริโภคอาหารอย่างสมดุลนั้นไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงให้มากขึ้นแต่ อย่างใด

เกล็ดน่ารู้เกี่ยวกับไข่

โคลีน...สารต้านสมองเสื่อมในไข่ไก่
ไข่ไก่ อาหารยอดนิยมที่ทุกบ้านต้องมีติดครัว เพราะทำได้หลากหลายเมนู ทั้งต้ม ทอด หรือผัด ไข่ไก่คือขุมทรัพย์ และมีประโยชน์อย่างมหาศาลต่อสุขภาพ
มีงานวิจัยจากต่างประเทศที่ทดลองโดยให้กลุ่มตัวอย่าง 100,000 คน กินไข่ไก่วันละ 1 ฟอง กระทั่งได้ข้อสรุปว่า กลุ่มตัวอย่างที่กินไข่ไก่วันละ 1 ฟองขึ้นไป จะปลอดจากความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ มากกว่าคนที่ไม่กินไข่เลย และไข่ไก่ก็ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ระดับคอเลส เตอรอล หรือไขมันในเลือดสูง หรือการเกิดหลอดเลือดอุดตันแต่อย่างใด แต่โรคที่ว่านั้นกลับเกิดจากการกินอาหารชนิดอื่นที่มีไขมันอยู่ในระดับสูง อาทิ นม เนย โดยเฉพาะอาหารประเภทผัด-ทอด รวมทั้งการกินอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว เช่น กะทิ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว น้ำมันหมู เป็นต้น และการกินเนื้อสัตว์ใหญ่อย่าง หมู แพะ แกะ วัว มากเกินไป นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ การออกแรง-ออกกำลังน้อยเกินไป หรือ แม้แต่คนที่มีภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกินมาตรฐาน เหล่านี้ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้ภาวะไขมันในเลือดแย่ลงด้วยเช่นเดียวกัน
โจอัน ลันน์ นักโภชนาการของมูล นิธิโภชนาการอังกฤษ ก็เห็นด้วยกับผลวิจัย นี้ และเขายังระบุอีกว่า ไข่ไก่ฟองเล็ก ๆ นั้นอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เพราะมีสารอาหารมากถึง 13 ชนิด อัดแน่นอยู่ภายใน ไข่แดง ขณะที่อัลบูเมนโปรตีนสำคัญที่ไม่ มีไขมันเจือปนแม้แต่น้อย ซ่อนตัวอยู่ใน ทุกอณูของไข่ขาว และในไข่ยังอุดมไปด้วย วิตามินเอ ที่ช่วยเรื่องการเติบโตและพัฒนา การ วิตามินบี ซึ่งมีความสำคัญต่อกระบวนการทำงานของร่างกาย วิตามินอี ช่วยต่อต้านโรคหัวใจและมะเร็งบางประเภท วิตามินดี ที่ทำหน้าที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมเกลือแร่และทำให้กระดูกแข็งแรง และแร่ธาตุ ไอโอดีน ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตไทรอยด์ฮอร์โมน รวมทั้ง ฟอสฟอรัส ที่จำเป็นต่อการ เสริมสร้างกระ ดูกและฟันและที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นคือ มีงานวิจัยลำดับต่อ ๆ มาอยู่หลายชิ้น ที่มีข้อสรุปซึ่งตรงกันว่า ไข่ไก่ประกอบไปด้วยสารอาหารที่ช่วยเพิ่มคอเลส เตอรอล ชนิดดี หรือ เอชดีแอล ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะ โคลีน (Choline) ที่มีอยู่ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่พบในเยื่อหุ้มเซลล์สมอง และเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์สมอง นับตั้งแต่เป็นทารกอยู่ในครรภ์เรื่อยไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัย รวมทั้งเป็นองค์ประกอบสำคัญของสารเคมีในเซลล์สมองที่ชื่อ อะเซทิลโคลีน (acetylcholine) ที่ทำหน้าที่เป็น “สารสื่อนำประสาท” คอยควบคุมความจำและช่วยให้การทำงานของสมองเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งอะเซทิล โคลีนมีความสัมพันธ์โดยตรงกับโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ เนื่องจากพบว่าในสมองของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ จะมีปริมาณของอะเซทิลโคลีนลดลงมากถึงร้อยละ 90




สำหรับโรคอัลไซเมอร์นั้น ปัจจุบันมีนักวิจัยได้ศึกษาเพื่อหาวิธีการป้องกันการเกิดโรคนี้ และผลการวิจัยหลาย ๆ ชิ้นระบุว่า ไข่แดงของไข่ไก่ เป็นอาหารที่มีโคลีนอยู่ในปริมาณมากที่สุดชนิดหนึ่ง และการกินไข่ ก็มีผลโดยตรงต่อการเพิ่มประสิทธิภาพความ จำและความสามารถในการเรียนรู้ และยังช่วยชะลอการสูญเสียความทรงจำในผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญในการช่วยลดการเสื่อมของเซลล์สมอง ความสำคัญเหล่านี้กลายเป็นมูลเหตุให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารในปัจจุบัน กำหนดให้โคลีนเป็นสารอาหาร จำเป็นที่คนทุกเพศทุกวัยต้องบริโภค แม้ว่าร่างกายของคนเราจะสามารถผลิตโคลีนได้ก็ตาม แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงจำเป็นต้องกินเพิ่มขึ้นในปริมาณที่เหมาะสม
ฉะนั้น การจำกัดการกินไข่ไก่เพียงเพราะกังวลว่าจะเกิดโรคต่าง ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แต่ในทางกลับกัน การจำกัดการกินไข่ไก่ต่างหากที่ควรจะต้องกังวล การกินไข่ไก่นอกจากจะไม่ก่อผลเสียต่อร่างกายของคนแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย.

การเก็บไข่


การเก็บไข่ไว้ในบ้าน มีหลักการดังนี้1. เลือกเก็บเฉพาะไข่ที่ออกใหม่ เปลือกสะอาด เพราะถ้าเปลือกสกปรก อาจทำให้จุลินทรีย์เข้าไปในไข่ได้
2. ไม่ล้างไข่ก่อนถึงเวลาทำอาหาร เพราะจะเป็นการล้างเอาเมือกที่เคลือบรอบเปลือกไข่ออกด้วย ทำให้น้ำระเหยออกจากไข่มากขึ้น
3. เก็บไว้ในอุณหภูมิต่ำ เก็บไว้ในตู้เย็น
4. เก็บไว้ในภาชนะที่ปิดมิดชิด เก็บในที่สะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น
5. ขณะที่วางไข่บนที่เก็บ ควรวางให้ด้านป้านขึ้น ถ้าหากเอาด้านแหลมขึ้น จะทำให้น้ำหนักของไข่ดันให้โพรงอากาศลอยตัวขึ้นด้านบน ทำให้เยื่อหุ้มไข่ทั้งสองแยกออกจากกัน ไข่แดงซึ่งเบากว่าจะลอยตัวขึ้นข้างบนเช่นเดียวกัน และทำให้ไข่แดงติดเปลือกได้ง่ายขึ้น

สิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่อเก็บไข่ไว้นาน
โพรงอากาศในไข่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น มองเห็นได้ชัดโดยใช้วิธีส่องไข่ หากเก็บไข่ไว้ในที่ที่มีความชื้นสูงจะทำให้โพรงอากาศขยายได้ช้าลง การเปลี่ยนแปลงชนิดนี้ทำให้ไข่สูญเสียน้ำไปบ้างเลฏน้อยเท่านั้น ผู้บริโภคไม่ค่อยได้สนใจการเปลี่ยนแปลงทางด้านนี้มากนัก
ไข่แดงใหญ่ขึ้น น้ำในไข่ขาวสามารถเคลื่อนเข้าไปในไข่แดงด้วยแรงดันออสโมซิส เนื่องจากความเข้มข้นของไข่แดงมากกว่าไข่ขาว ทำให้ไข่แดงมีขนาดใหญ่ขึ้น ไม่อยู่ตรงกลางของฟองไข่ มีความหนืดน้อยลง เยื่อหุ้มไข่แดงยืดออกจนขาดง่าย ทำให้ไข่มักแตกเสียก่อน แยกไข่แดงออกจากไข่ขาวยาก ในบางครั้งไข่แดงก็อาจเอียงไปติดเปลือกด้านใดด้านหนึ่ง ถ้าเก็บไข่ไว้ในอุณหภูมิที่สูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในข้อนี้จะเกอดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไข่ขาวข้นเหลว ในขณะที่เก็บไข่ ไข่ขาวข้นจะกลายเป็นไข่ขาวเหลว เพราะมีการย่อยโปรตีนในไข่ขาวเอง ปริมาณไข่ขาวข้นในไข่ขึ้นอยู่กับพันธุ์ไก่ด้วย ในปัจจบันจึงมีการผสมพันธุ์ไก่ เพื่อให้ได้ไข่ที่มีปริมาณไข่ขาวข้นสูง
ไข่เป็นด่างมากขึ้น ระหว่างที่เก็บไข่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในไข่จะระเหยออก ทำให้ไข่มีฤทธิ์เป็นด่างมากขึ้น ก๊าซนี้เกิดจากขบวนการเมตะโบลิซึมของไข่ และละลายไข่ในรูปของกรดคาร์บอนิก และเกลือไบคาร์บอเนต ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะระเหยออกไปจนในไข่มีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เท่ากับอากาศโดยรอบ

วิธีการเลือกไข่


วิธีการเลือกไข่มีดังนี้
ไม่ว่าจะเป็นไข่ดาว ไข่ตุ๋น ไข่เจียว ไข่พะโล้ และอีกสารพัดกับข้าวเมนูไข่ นับเป็นอาหารง่าย ๆ รสชาติถูกปากยามฉุกเฉินที่ไม่เลว แทบทุกบ้านจึงต้องมีไข่ติดครัวไว้อยู่เสมอ เรามีวิธีการเลือกซื้อให้ได้ไข่ไก่ที่สด และการเก็บรักษามาฝากค่ะ
ดูที่เปลือก - ไข่ไก่ที่สดใหม่จะมีฝุ่นแป้งฉาบอยู่ทั่วเปลือก รู้สึกนวลมือเวลาจับ ซึ่งช่วยอุดรูเล็ก ๆ ของเปลือกไข่ ไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปได้ หากเป็นไข่เก่าเปลือกจะมันลื่น ไม่มีฝุ่นแป้งเหล่านี้ค่ะ
ทดสอบไข่ - เวลาเขย่าจะรู้สึกแน่นไม่มีเสียงเหลว ๆ ของน้ำ เมื่อส่องดูกับแสงแดดจะมีลักษณะโปร่งแสงสีออกแดง ไม่ดำทึบ
ล้างไข่ - หลายคนเมื่อซื้อไข่มาแล้วจะล้างเปลือกไข่เพื่อทำความสะอาดก่อนนำไปเก็บ ซึ่งจะทำให้ฝุ่นแป้งที่เปลือกหลุดออก ดังนั้นถ้าจำเป็นต้องล้าง ควรเช็ดให้แห้งแล้วทาน้ำมันพืชบาง ๆ ให้ทั่ว จะช่วยไม่ให้ไข่เน่าเสียง่าย
เก็บไข่ - ควรเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำ เช่น ในตู้เย็น จะดีที่สุด โดยนำออกจากถุงหรือกล่องพลาสติกเสียก่อน หากพบว่าไข่มีรอยร้าวหรือแตกไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะเชื้อโรคที่เปลือกอาจเข้าไปในไข่ได้ ควรตอกใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิทแล้วแช่ตู้เย็นจะทำให้เก็บได้นาน